เจาะลึก เทคโนโลยีความปลอดภัย ปี 2018 โดยวาตาชิ
ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI (Artificial Intelligence) เป็นระบบที่คอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถในการรับคำสั่งตามธรรมชาติของมนุษย์ สามารถเข้าใจเหตุผลของมนุษย์ และสามารถตอบสนองคำสั่งนั้นได้ใกล้เคียงกับการคิดและตัดสินใจของมนุษย์
AI เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น แม้บางครั้งเราจะไม่รู้ตัวก็ตาม ความฉลาดของ AI ได้ถูกพัฒนาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าตอนนี้ยังไม่ฉลาดเท่าสมองมนุษย์ แต่ก็ได้พัฒนาไปมากแล้ว AI ได้เข้ามาเป็นผู้ช่วยส่วนตัว หลายค่ายได้พัฒนา Application สำหรับบันทึกนัดหมายขึ้นมา สามารถแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลานัดหมายได้ การค้นหาสถานที่ต่างๆที่ใช้วิธีการสั่งการด้วยเสียง คล้ายกับการพูดคุยกับเลขาส่วนตัว AI ได้เริ่มเข้าทดแทนบางอาชีพ เช่น พนักงานขับรถ เป็นต้น และดูจะเป็นที่สนใจกันมากคือการนำ AI เข้ามาช่วยในเรื่องการรักษาความปลอดภัย ซึ่งปัจจุบันก็ได้ถูกนำมาใช้กันอย่างกว้างขวาง
ระบบบ้านอัจฉริยะ
เทคโนโลยีกล้องวงจรปิดไร้สายที่ผนวกเข้ากับ Wi-Fi นั้น จะทำให้สามารถดูกล้องจากมือถือได้ ติดตั้งและเคลื่อนย้ายสะดวก โดยไม่ต้องเสียบปลั๊ก ระบบ AI บนกล้องวงจรปิดไร้สายที่ใช้ในฟังก์ชั่นการแจ้งเตือนผู้บุกรุก โดยที่ AI จะแยกแยะระหว่างคน สัตว์ และยานพาหนะออกจากกัน ทำให้ตรวจจับผู้บุกรุกได้อย่างแม่นยำ เมื่อประยุกต์ใช้กับสิ่งของเครื่องใช้ในบ้าน ก็จะทำให้สั่งเปิดปิดไฟ หรือส่งสัญญาณเตือนภัยต่างๆ ผ่านระบบเซ็นเซอร์ได้ เป็นช่วยป้องกันปัญหาการโจรกรรมที่ได้ผลดีมาก
ระบบ AI ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆในบ้าน เช่น แจ้งเตือนการเมื่อลืมปิดแก๊ส โดยระบบแจ้งเตือนที่สมาร์ทโฟน (หรืออุปกรณ์อื่น) ได้ ก็สามารถป้องกันอัคคีภัยได้
อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ AI เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์และตัดสินใจในการตรวจจับควันไฟ ก่อนที่จะเกิดเปลวไฟขึ้น จะช่วยป้องกันอัคคีภัยได้ ลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินได้
ระบบบ้านอัจฉริยะนอกจากจะช่วยเรื่องความปลอดภัยแล้วยังช่วยลดค่าใช้จ่าย การมีระบบการตรวจสอบ และควบคุมอัจฉริยะที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า มิเตอร์บ้านอัจฉริยะ (Home smart meters) หรือแม้แต่เครื่องใช้ภายในบ้านที่ควบคุมด้วยระบบเซ็นเซอร์ ช่วยลดค่าพลังงานไฟฟ้าลงได้ ซึ่งช่วยลดต้นทุนการประกอบการของหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะโรงงานได้เป็นอย่างดี
ระบบการตรวจสอบแบบเรียลไทม์
AI ที่เป็นระบบการตรวจสอบแบบเรียลไทม์ ป้องกันภัยพิบัติได้ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้คนมากขึ้น เช่น การตรวจวัดการสั่นสะเทือนหรือคลื่นความร้อนก่อนการเกิดแผ่นดินไหว
AI เป็นระบบตรวจสอบแบบเรียลไทม์ที่ใช้กับระบบรถยนต์อัจฉริยะ เช่น ใช้กล้องตรวจจับความผิดปกติขององศาของรถที่วิ่งสวนมา หรือตรวจสอบความผิดปกติเครื่องยนต์ ก็จะช่วยลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุไม่คาดฝันได้ และจะช่วยลดการสูญเสียของชีวิตและทรัพย์สินได้
AI ในรถยนต์ที่เริ่มนำมาใช้ ได้แก่ การควบคุมอุปกรณ์ในรถยนต์ด้วยเสียง เช่น เครื่องปรับอากาศ เครื่องเสียง เครื่องนำทาง แม้จะดูว่าการสั่งงานด้วยเสียงยังเป็นระบบ AI แบบง่ายๆ แต่ก็ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้มากกว่าการควบคุมอุปกรณ์โดยใช้มือได้มากเหมือนกัน
ต้องยอมรับว่าต่อไปโลกจะขับเคลื่อนด้วย AI เราในฐานะเป็นคนหนึ่งที่ต้องโดนผลกระทบนี้ จำเป็นที่จะต้องเร่งศึกษาเรียนรู้ AI ไว้ เพื่อที่จะเลือกใช้ AI ให้เกิดประโยชน์กับตัวเองสูงสุด