Skip to content
บริษัทกล้องวงจรปิดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย No.1 Security camera compay
บริษัทกล้องวงจรปิดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย No.1 Security camera compay

เลือกซื้อ Power Supply เองได้ง่ายๆ แค่ 3 ขั้นตอน !!

เลือกซื้อ Power Supply เองได้ง่ายๆ แค่ 3 ขั้นตอน !แนะนำ อ่านก่อนซื้อ...จะได้ไม่เสียใจภายหลัง

Power Supply Unit หรือ PSU นั้นเป็นหัวใจ ของคอมพิวเตอร์ เพราะมีหน้าที่ต้องจ่ายไฟเลี้ยงไปยังอุปกรณ์ ต่างๆภายในเครื่องคอมทั้งหมด ซึ่งหลายคนมักไม่ค่อยให้ความใส่ใจ หรือให้ความสำคัญในการเลือก power supply ทำให้บ่อยครั้งเมื่อมีการอัพเกรดสเปกคอมพิวเตอร์แล้ว มักต้องซื้อ power supply ใหม่ด้วยเสมอ นั้นเป็นเพราะอะไร.. ? มาดูกัน

เพราะ “อุปกรณ์ใหม่ของเราที่เพิ่มเข้ามา กินไฟมากกว่าเดิม

เกินกว่าที่ Power Supply จะรองรับได้ ทำให้เกิดอาการ Overload จนคอมพิวเตอร์เกิดดับไป หรืออาการร้ายแรงสุดเลยคือ บอร์ดใหม่ หรือ Power supply พัง

ฉะนั้นการเลือกซื้อ Power supply จึงมีความสำคัญมาก !!

ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีเลือกซื้อกัน แบบง่ายๆ ใน 3 ขั้นตอน

Step 1: เลือก PSU ที่มีขนาด WATT รองรับเพื่ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของเรา
คำถามคือ แล้วเราจะรู้ได้ยังไง ว่าควรซื้อ PSU กำลังไฟเท่าไหร่ดี ? ผมมีสูตรง่ายๆมาให้คิดครับให้เอา TDP ของ CPU + GPU มา x2 และบวกอีก 80หรือ120 ครับ เป็นวิธีง่ายๆที่ใช้ได้จริง แต่ผมบอกก่อนนะว่า TDP ไม่ได้เป็นตัวบอกการกินไฟนะ มันคือการคายความร้อนครับ แต่สามารถเอามาใช้ ในการตัดสินใจคร่าวๆได้ครับ ที่ให้เพิ่มอีกนิดหน่อยก็สำหรับส่วนอื่นๆในคอมพิวเตอร์ มันกินไฟน้อย ดังนั้นเผื่อประมาณนี้ไว้ก็พอ ส่วนถ้าใครพัดลมเยอะ ชุดน้ำใหญ่ ไฟจัดเต็ม ก็บวกสัก 120 หรือเพิ่มอีกสักหน่อย และที่ให้ x2 เพื่อกะให้ PSU มี Load อยู่ที่ราวๆ 50-60% นั่นเอง เพราะถ้าใช้ใกล้ขีดจำกัดตลอดอาจส่งผลต่ออายุการใช้งานของ PSU ได้ครับผม ซึ่งตามหลักแล้ว แนะนำให้ซื้อ ตัวที่มี watt เผื่อไว้เยอะหน่อยก็ดีครับ เพราะถ้าคอมรวมกินแค่ 300w ซื้อตัวกำลัง 1000w ก็ใช้ไฟแค่เท่าเดิมครับ ไม่ได้เพิ่มตาม ดังนั้นเผื่อเหลือๆได้ แต่ขาดไม่ได้ครับผม

.

Step 2: เลือกหาซื้อตัวที่ได้รับมาตรฐานการจ่าย ไฟ 80PLUS หรือ 80+
หากต้องการตัวเดียวจบ ใช้กันแบบยาวๆ แนะนำ ให้เลือก
PSU ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการจ่ายไฟ 80+  ซึ่งเป็นการรับรองว่า PSU ตัวนี้นั้น จ่ายไฟได้กี่ % ได้มาตรฐานสากล หรือตามที่ระบุหรือไม่ ซึ่งจะแบ่งออกเป็นหลายระดับ เช่น White /  Bronze / Silver / Gold / Platinum /Titanium เป็นต้น ยิ่งสูงก็ยิ่งดีครับ ซึ่งสำหรับคอมพิวเตอร์ ใช้งานทั่วไป หรือใช้สำหรับเกมเมอร์ แนะนำเลือก Bronze / Silver / Gold ก็เพียงพอแล้วครับ ถ้างบเราน้อย ไม่ต้องใส่ใจมากก็ได้ เพราะมันต่างกันแค่ไม่กี่ % เท่านั้นครับ ถ้าเอาแบบง่ายๆเลยผมมีจัด Tier คุณภาพไว้ให้แล้วในช่อง สามารถดูและเลือกซื้อได้ทันทีครับ
.

Step 3: ถอดสายไฟ แยกได้ หรือไม่ (Modular Support)

อันนี้ง่ายๆครับ Modular คือ ออฟชั่นเสริม PSU ในระดับ Hi-end ที่รองรับการถอดสายไฟได้ ถ้าหากไม่มีก็จะเป็นแบบมีสายติดมากับตัว PSU ซึ่งทำให้จัดสายไฟ ให้สวยงามยาก เพราะไม่สามารถเลือกนำสายที่ไม่ใช้ถอดเก็บได้ ซึ่งในบางรุ่นจะมีเป็น Semi-Modular คือใส่ไว้ให้บางส่วนแค่ส่วนหลักๆครับ ความต่างของพวกนี้จะเกี่ยวกับเรื่องพื้นที่เคส และความสวยงามเป็นระเบียบมากกว่า และส่วนใหญ่ที่ดีๆก็มักจะเป็นแบบ Modular ทั้งหมด ดังนั้นไม่ต้องซีเรียสก็ได้ครับ
.

ครบ 3 step นี้ก็คือทั้งหมดที่จำเป็นในการเลือก PSU แล้วครับผม สามารถไปเลือกซื้อกันเองได้แล้วเน๊อะ ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะ?

และบทความนี้ ก็สนับสนุนโดย Dtech.Official นะครับ ค่ายนี้ก็มีรุ่นดีๆที่ผ่านเกณฑ์ผมและอยากจะแนะนำอยู่ 2 รุ่น นั่นก็คือ

DTECH PW071A 750w 80+ Bronze: https://bit.ly/39U6drZ

DTECH PW072A 850w 80+ Gold: https://bit.ly/3abl2qc

โดยตัว Bronze นี่จะเป็นรุ่นทั่วๆไปครับ เหมาะกับการใช้งานทุกประเภทไม่ว่าจะเล่นเกมหรือทำงานหนักๆก็ตาม ส่วนรุ่นที่เป็น 80+ Gold นี่จะอัพเกรดทั้งในด้านประสิทธิภาพการจ่ายไฟและวัสดุให้เป็นระดับพรีเมี่ยมทั้งหมดครับ

Previous article รีวิว Mini Projector Dtech NB129 EZCast Beam J2
Next article Power Supply ดีๆ ข้างในเป็นยังไง ไปดูกัน!