ใครว่าการติดตั้ง Door Sensor มีดีแค่เรื่องของการเป็นสัญญาณกันขโมยเวลามีผู้บุกรุกผ่านเข้ามาในบ้านเพียงอย่างเดียว ช้าก่อน🏠 ... เพราะระบบนี้ยังมีความพิเศษที่ไม่ควรพลาด ติดตั้งจุดไหนก็แฮปปี้ ใช้งานคุ้มค่ากับ 7 ประโยชน์ของ Door Sensor มีดีมากกว่าที่คิด👍
⚡️1. เปิดแอร์ – ลืมปิดหน้าต่าง!
ถึงว่าทำไมแอร์ไม่เย็นเสียที ก็เปิดแอร์แต่ดันลืมปิดหน้าต่างน่ะสิ แถมยังเปลืองค่าไฟอีกต่างหาก แก้ไขได้ไม่ยาก เพราะระบบออโตเมชั่นจะทำหน้าที่เช็คสถานะพร้อมแจ้งเตือนให้คุณรู้ทันที คราวนี้ก็ปิดได้อย่างมิดชิด...
⚡️2. เช็คสถานะอัตโนมัติ: ลืมปิดหลังบ้าน
บางครั้งคนเราก็มีรีบร้อนกันได้จนลืมปิดประตูหลังบ้าน!!! แต่ไม่ต้องห่วงเพราะ Door Sensor ตัวนี้จะมีสถานะบอกให้กับเจ้าของทันที จะด่วนแค่ไหนก็ไม่มีทางลืมปิดแน่นอน
⚡️3. ประตูเปิด = เปิดไฟ
เคยไหม? ถือของมาพะรุงพะรัง ไม่มีมือจะเปิดไฟ หรือบางทีรีบมากเปิดประตูมาหาสวิตช์ไฟไม่เจออีก แก้ไขได้ด้วยระบบ Door Sensor ช่วยสั่งอุปกรณ์อื่นให้ทำงานได้ โดยเฉพาะคำสั่งพื้นฐานที่ติดตั้งเอาไว้ในระบบ เมื่อประตูเปิด = เปิดไฟ
⚡️4. แอร์ห้องทำงาน : เปิด
เพียงติดตั้งอุปกรณ์นี้ไว้บริเวณบานสวิงแอร์ ก็จัดการปัญหาได้อย่างครอบคลุม แจ้งสถานะทันทีที่เปิดแอร์ เช่น เดินออกไปนอกห้องแล้วลืมปิดแอร์ หรือหากอยากเปิดแอร์ก่อนถึงบ้าน เพื่อให้ห้องเย็นเวลาเรามาถึง ตัวเซ็นเซอร์จะช่วยยืนยันสถานะการเปิดเวลาใช้ร่วมกับรีโมท
⚡️5. เปิดประตูโรงรถเกิน 1 นาที
เพื่อความปลอดภัยของทุกคน การติดตั้ง Door Sensor ไว้ที่ประตูโรงรถ แล้วถ้าประตูนั้นเปิดเกิน 1 นาที โดยไม่มีรถเคลื่อนผ่านใด ๆ ทั้งสิ้น ระบบจะแจ้งเตือนเพื่อให้ทุกคนในบ้านรู้ทันที!!! ไม่ต้องเปิดประตูค้างเอาไว้ ป้องกันทั้งยุงและสัตว์เลื้อยคลานเข้าบ้าน
⚡️6. แจ้งเตือน : มีผู้บุกรุก
สุดยอดระบบแห่งความปลอดภัย ทำการแจ้งเตือนทันทีเมื่อมีผู้บุกรุกเข้ามาในพื้นที่ พยายามงัดแงะประตู ไม่ใช้การเปิดประตูแบบธรรมชาติ จบปัญหาโดนขโมยขึ้นบ้านไปเลย!
⚡️7. แจ้งเตือนคนเปิดลิ้นชัก
หลายคนเก็บของสำคัญเอาไว้ในลิ้นชัก แม้ล็อกอย่างดีแต่อาจมีมือที่มองไม่เห็นตั้งใจหยิบไป ระบบจะทำการแจ้งเตือนทันทีเมื่อมีคนพยายามเปิดลิ้นชักของคุณ!!!
🌟บอกแล้วว่า Door Sensor ไม่ได้มีดีแค่การป้องกันผู้บุกรุก แต่ประโยชน์อีกเพียบ เพิ่มความเป็นสมาร์ทโฮม🏠 ให้กับบ้านทุกหลัง คนในครอบครัวปลอดภัย บ้านน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะเลย!🌟
🔥🔥Door sensor Watashi🔥🔥
WIOT5012Z ได้ในราคา 520-. รวมจัดส่งฟรีๆๆ ถึงหน้าบ้านคุณลูกค้าได้เลยจ้า👍
😍😍ให้วาตาชิ ดูแลบ้านคุณนะคะ😍😍
หมายเหตุ : สินค้าตัวนี้ต้องใช้คู่กับ Gateway (WIOT5013Z)
สนใจสั่งซื้อได้ที่ ⏬⏬
☎️Shop online ได้ตามช่องทางต่อไปนี้
🍀Inbox : m.me/watashi.official
🍀Line:@watashicctv https://lin.ee/giUosm1
🍀หน้าร้านทุกสาขา ทั่วประเทศ
☎️โทรเลย Call Center : 1795 ตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ
ตามมาดูกันว่าจะซื้อทั้งที ต้องดูอะไรกันบ้าง
ก่อนที่คุณจะเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ คุณจะต้องรู้ !!ขนาดห้อง !!ที่คุณจะนำไปใช้กันก่อน ว่ามีขนาดห้องกี่ตารางเมตร เช่น ห้องนอน ห้องรับแขก คอนโด เพราะขนาดห้องมีความสำคัญต่อการเลือกซื้อขนาดของเครื่องฟอกอากาศ
หัวใจสำคัญ ในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศเลยคือตัวฟิลเตอร์หรือไส้กรอง !! ฟิลเตอร์ของเครื่องฟอกอากาศที่ดี ควรจะต้องมีความะละเอียดในการกรองฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ และควันได้ ในมาตรฐานระดับ PM 0.3 ได้เป็นอย่างน้อย ที่เหลือตัดทิ้งไป
อย่าลืมดูค่า Clean Air Delivery Rate หรืออัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ ยิ่งเยอะ ยิ่งช่วยให้สามารถสร้างอากาศบริสบริสุทธิ์ในห้องคุณได้เร็วมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
มาถึงในส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่ง คือเรื่องของฟังก์ชันการใช้งาน ที่จะซื้อทั้งทีต้องตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เช่น บางคนชอบแบบใช้งานง่าย ไม่ต้องใช้แอพ หรือบางคนชอบฟังก์ชันสุดล้ำ สั่งการด้วยมือถือ เป็นต้น
อีกหนึ่งฟังก์ชันที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับเครื่องฟอกอากาศในยุคนี้ คือ ฟังก์ชันการทำงานแบบไร้เสียงรบกวน ที่จะช่วยปรับลดความเร็วมอเตอร์ในการทำงานให้ลดลง ช่วยให้คุณหลับได้สบายมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับการใช้ในห้องนอน หรือห้องทำงาน
สำหรับการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ นั้นอย่าลืมสอบถามข้อมูลการรับประกันสินค้า แนะนำให้ให้เลือกซื้อสินค้าที่มีการรับประกันกับศูนย์ไทย เพื่อความคุ้มครอง ในกรณีการส่งซ่อม หรือเคลมสินค้าทำได้ง่าย และรวดเร็ว
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับเคล็ดลับดีๆในการเลือกซื้อเครื่องฟอกกาศ ที่ผมนำเอามาฝากกันในวันนี้ ก่อนจากกันผมขอฝากเครื่องฟอกอากาศรุ่นใหม่ล่าสุด จาก WATASHI รุ่น WIOT7001 เครื่องฟอกอากาศฟังก์ชันสุดล้ำ ฟิลเตอร์ 4 ชั้น กรองได้ละเอียดกว่าด้วยมาตรฐานฟิลเตอร์ PM 0.3 กรองได้ทั้ง ฝุ่นละออง กลิ่น ควัน เกสรดอไม้ และแบคทีเรีย มาร่วมสร้างอากาศบริสุทธิ์ให้กับคนที่คุณรักด้วยกันซิครับ สนใจคลิกลิงค์ด้านล่างได้เลยครับ
]]>อัคคีภัยที่สามารถเกิดขึ้นในบ้านของเราได้ ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากความประมาท และอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญก็คือไม่มีการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันเพื่อแจ้งเตือนตอนเกิดเหตุแบบทันท่วงที เราได้รวบรวม 5 จุดเสี่ยงในบ้านที่มักจะเกิดเหตุเพลิงไหม้ได้บ่อยครั้งมาฝากคุณในวันนี้
ห้องครัว เนื่องด้วยในห้องครัวมีถังแก๊ส มีเตา มีเครื่องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ พื้นที่อากาศถ่ายเทน้อย เพียงแค่ลืมปิดถังแก๊สแล้วมีแก๊สรั่วออกมาในบริเวณบ้าน หากมีประกายไฟในบริเวณที่มีแก๊สรั่วไหล ก็ทำให้เกิดการลุกไหม้ได้ นอกจากนี้ ยังมีอันตรายจากการทำอาหารทิ้งไว้และการใช้ไมโครเวฟ ซึ่งสามารถสร้างความเสียหายให้กับบ้านทั้งหลังของคุณได้
ห้องพระ มีการใช้ไฟเพื่อจุดธูปเทียน จึงถือเป็นพื้นที่อันตรายไม่แพ้กัน การดับไฟทุกครั้งที่ออกจากห้องจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากหลงลืมก็อาจกลายเป็นอุบัติเหตุครั้งใหญ่ได้
ห้องที่มีปลั๊กไฟเก่า ปลั๊กไฟ สายไฟ เป็นอุปกรณ์ที่ต้องได้รับการตรวจสอบอยู่เสมอ ควรตรวจสอบการชำรุดหรือความเสื่อมสภาพ เช่น สายหัก สายลอก โดยเฉพาะเต้าเสียบที่ใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าคราวละหลายตัว อาจจะทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้
ห้องไฟฟ้าหรือจุดที่มีหม้อแปลงไฟฟ้า สามารถเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ง่าย ควรมีอุปกรณ์ดับเพลิงวางไว้เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ที่สำคัญควรติดตั้งเซฟทีคัทเพื่อตัดไฟหากเกิดปัญหาลัดวงจรและควรติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจจับไฟหรือควันไว้ที่บริเวณนี้ เพราะจะช่วยส่งสัญญาณเตือนไฟไปยังเจ้าของบ้านได้ทันที
ห้องนั่งเล่น สามารถเกิดไฟไหม้ได้จากความประมาทของเราเอง เช่น การสูบบุหรี่ การเสียบสายชาร์ตโทรศัพท์ทิ้งไว้ ล้วนเป็นสาเหตุของไฟไหม้ได้ทั้งสิ้น
อัคคีภัยเป็นภัยใกล้ตัวที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ดังนั้นการป้องกันด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัยจึงเป็นเรื่องที่ทุกบ้านควรให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ดับเพลิงต่างๆ รวมทั้ง การติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจจับควันไฟที่ส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปยังสมารท์โฟนหรืออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อไว้ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยหยุดยั้งความเสียหายได้อย่างที่คุณคาดไม่ถึง โดยเฉพาะผู้ที่ไม่อยู่บ้าน เดินทางบ่อย การติดเซ็นเซอร์ตรวจจับควันไฟจะทำให้คุณอุ่นใจขึ้นในทุก ๆ วัน อย่าลืมติดเซนเซอร์ตรวจจับควันไฟ WATASHI รุ่น WIOT5004z วันนี้ ปกป้องคุณทันที ให้ปลอดภัย ทั้งคนที่คุณรัก และทรัพย์สินของคุณ
Link: เครื่องตรวจจับแก๊ส WATASHI
สุภาษิตกล่าวว่า “โจรขึ้นบ้านสิบครั้งไม่เท่ากับไฟไหม้บ้านเพียงครั้งเดียว” หนึ่งในสาเหตุหลักของอัคคีภัยก็คือแก๊สรั่ว ในบทความนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านการดับเพลิงจะพาเราไปศึกษาสาเหตุที่ทำให้แก๊สรั่ว เพื่อที่จะได้ระวังและตรวจสอบแก้ไขจุดบกพร่องได้ก่อนเกิดเหตุ
1. ลืมปิดวาล์วแก๊ส
คือสาเหตุอันดับ 1 ที่ทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ ส่วนใหญ่มาจากความประมาทของผู้ใช้งาน เช่น เมื่อใช้แก๊สหรือทำอาหารเสร็จแล้วลืมปิดวาล์วแก๊ส ทำให้แก๊สเกิดรั่วไหลออกมา หากกระทบกับประกายไฟเพียงเล็กน้อยก็ทำให้ไฟไหม้ลุกลามได้ทันที เราสามารถทำป้ายเตือน “ปิดวาล์วแก๊สทุกครั้งหลังเลิกใช้งาน” ไว้ในระดับสายตาเพื่อเตือนสติอยู่เสมอ
2. ชุดเตาแก๊สชำรุดเสียหายหรือเสื่อมสภาพ
เตาแก๊สในครัวเรือนส่วนใหญ่นั้นใช้งานมาอย่างยาวนานหลายชั่วอายุคนและมักขาดการตรวจเช็คและซ่อมแซม เสี่ยงต่อการมีอุปกรณ์ชำรุด เช่น วาล์วแก๊ส สายถังแก๊ส หรือหัวแก๊ส ส่งผลต่อการรั่วซึมของแก๊สตามจุดต่าง ๆ จึงควรดูแลรักษาเตาแก๊สให้อยู่ในสภาพดีและพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
3. การตั้งถังแก๊สไว้ในพื้นที่อันตราย
ทั้งการติดตั้งหรือวางไว้ในพื้นที่เสี่ยง เช่น ปั๊มน้ำมัน ทางเดินเท้า ริมถนน หรือที่ที่อาจเกิดการเฉี่ยวชนของรถยนต์ที่สัญจรไปมา รวมถึงการติดตั้งไว้ในที่ที่เด็กสามารถเข้าไปจับหมุนวาล์วแก๊สเล่นได้โดยไม่รู้ถึงอันตรายของแก๊สรั่วไหล
4. การติดตั้งเตาแก๊สอย่างไม่ถูกต้อง
ควรติดตั้งเตาแก๊สและถังแก๊สในที่ที่เหมาะสมและถูกต้องตามหลักวิธีการใช้งาน ตั้งแต่มีระบบระบายอากาศเพียงพอ รวมทั้งการไม่วางถังแก๊สในแนวนอน
5. การเสื่อมสภาพของถังแก๊ส
ถังแก๊สจะเสื่อมสภาพไปตามอายุการใช้งาน ถังแก๊สที่หมดอายุจะทำให้แก๊สรั่วซึมจากถังได้ หากจำเป็นต้องเปลี่ยนถังแก๊ส ควรเปลี่ยนเป็นถังที่ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน
5 สาเหตุข้างต้นเป็นสิ่งที่ควรตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันเหตุเพลิงไหม้ นอกจากนี้ ยังควรติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจจับแก๊สรั่วเพื่อคอยตรวจจับและแจ้งเตือนทันทีเมื่อเกิดแก๊สรั่ว เราขอแนะนำเซ็นเซอร์ตรวจจับแก๊สรั่วรุ่นใหม่ล่าสุดจาก WATASHI รุ่น WIOT5003z ที่ทำหน้าที่ตรวจจับแก๊สรั่วได้ดีมากยิ่งขึ้น พร้อมแจ้งเตือนได้แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยป้องกันเหตุแก๊สรั่วไหลได้ก่อนจะนำไปสู่เหตุเพลิงไหม้ที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากให้เกิด
Link: เครื่องตรวจจับแก๊ส WATASHI
Link: เครื่องตรวจจับควัน WATASHI
]]>
ปัจจุบันนี้เทคโนโลยี การเชื่อมต่อไร้สายได้ถูกพัฒนาต่อเนื่องอย่างก้าวกระโดด ทั้งในเรื่องของ มาตรฐาน Wi-Fi ที่มีมาตรฐานการรับส่งข้อมูล ที่เร็วมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการพัฒนาฮาร์ดแวร์ให้มีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการประหยัดพลังงาน และความสเถียรมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของเรามากยิ่งขึ้น
ซึ่งหนึ่งในเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ ที่กำลังมาแรง และดีที่สุดในวงการ Smart home นั้นคือ เทคโนโลยี Zibee ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ “Zigbee” เทคโนโลยีการสื่อสารรูปแบบใหม่ ที่เปลี่ยนโลกจากเทคโนโลยีไร้สายแบบเดิม ๆ ให้มีความยืดหยุ่นและตอบสนองการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยี “Zigbee” สามารถเชื่อมต่อและรับส่งข้อมูล ระหว่างอุปรกณ์ โดยใช้พลังงานที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับการเชื่อมต่อ แบบบลูทูธ หรือ WIFI มากไปกว่านั้นคลื่นความแรงของสัญญาณที่รับ-ส่ง ได้ไกลถึง 300 เมตร ในขณะที่เทคโนโลยีเก่า แบบบลูทูธ สามารถเชื่อมต่อได้ไกลเพียงแค่ 10 เมตร เท่านั้น คุณจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยี Zigbee นั้น เป็นเทคโนโลยีน้องใหม่ไฟแรง ที่เข้ามาช่วยทำให้การเชื่อมต่อภายในบ้าน สมบูรณ์แบบ และเป็นมิตรกับโลกมากยิ่งขึ้น
Technology Zigbee ทำไมเหมาะกับ Smart Home ?
“Zigbee” ถือเป็นหนึ่งในเทคโนโลยี ที่ถูกนำมาใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านสมาร์ทโฮม เป็นอันดับต้นๆโดย มีจุดเด่น ในเรื่องของการส่งสัญญาน ที่ไกลถึง 300 เมตรและประหยัดพลังงานกว่าถึงหลายสิบเท่าตัว เมื่อเทียบเทคโนโลยีแบบอื่น ซึ่งช่วยให้อุปกรณ์ต่างๆ สามารถทำงานเชื่อมต่อ สั่งการกันได้เอง ได้เป็นระยะเวลานานจึงทำให้มีการ นำไปพัฒนาในอุปกรณ์ IOT ภายในบ้าน ให้สามารถเชื่อมต่อผ่านตัวกลาง ในรูปแบบสัญญาณไร้สาย ระหว่างเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เข้ากับตัวฮับกลาง เพื่อใช้มือถือสมาร์ทโฟน เข้ามาควบคุม
ตัวอย่าง Smart Home Device ที่ใช้ระบบ Zigbee ในการควบคุม
ทำไมระบบ Zigbee จึงถูกเลือกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งใน Smart Home
ด้วยความที่ เทคโนโลยี Zigbee เป็นเทคโนลี การเชื่อมต่อ ไร้สายที่ดีที่สุด พร้อมทั้งประหยัดไฟสูงสุด อีกทั้งยังมีบริษัท ร่วมพัฒนาเทคโนโลยีนี้มากกว่า 165 บริษัท และได้รับมาตรฐานการผลิตที่มีค่าความเสถียรของอัตราการส่งและรับข้อมูลที่อยู่ในระดับสูง ทำให้ เทคโนโลยี zigbee เป็นตัวเลือกอันดับ 1 ในการนำมาพัฒนาสินค้า IOT และ Smart home จึงส่งผลให้เกิดสินค้า IOT ที่ตอบโจทย์และไลฟ์สไตล์เปลี่ยนบ้านให้เป็นบ้านอัจฉริยะ เพื่อเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ด้วยเทคโนโลยี Zigbee ใหม่...ที่ช่วยให้ชีวิตคุณสนุก และสะดวกสบายได้มากกว่า
บทสรุปของ Zigbee ที่จะเปลี่ยนอนาคต
เทคโนโลยี Zigbee ปัจจุบัน ถูกพัฒนามาให้สามารถใช้งานได้ในระดับ End User แล้วในรูปแบบ อุปกรณ์เชื่อมต่อ และอุปกรณ์ IOT เพื่ออำนวยความสะดวกสบาย ในการสั่งการจัดการเรื่องต่างๆ แทนคุณให้คุณมีเวลา และชีวิต ที่มีความสุข มากยิ่งขึ้น...ดังนั้น อนาคตอันใกล้นี้ Zigbee จะเข้ามาเป็นส่วนช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน มากยิ่งขึ้นอีกแน่นอน
]]>เทรนด์เทคโนโลยี ที่มาแรงที่สุดในปี 2020 คือ เทคโนโลยี IOT ที่ช่วยให้คุณสามารถควบคุม สั่งการ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทุกอย่างภายในบ้าน ได้ง่ายๆผ่านปลายนิ้วสัมผัส ผ่านเทคโนโลยี IOT บนสมาร์ทโฟน ซึ่งการนำเอาเทคโนโลยีนี้ เข้ามาใช้ จะช่วยเปลี่ยนบ้านแบบเดิม ให้กลายเป็นบ้านแบบสมาร์ทโฮมอัจฉริยะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการดูแลรักษาความปลอดภัย การตรวจเช็คบำรุงรักษาอุปกรณ์ต่าง. ตลอดจนไปถึงระบบอัตโนมัติต่างๆ ที่ช่วยทำให้ชีวิตประจำวันของคุณนั้นเป็นเรื่องง่าย มากยิ่งขึ้น ! แต่จะง่ายขนาดไหน วันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับอุปกรณ์ IOT สุดล้ำ จาก WATASHI ที่จะเปลี่ยนการใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ให้เป็น Smart Life In Smart Home
1.Water leak detection
อุปกรณ์ ตรวจจับน้ำรั่วซึม โดยเซนเซอร์จะทำหน้าที่ตรวจสอบน้ำท่วม น้ำล้น พร้อมทำการแจ้งเตือนไปยังสมาร์ทโฟนผ่านแอพพลิเคชั่น ได้ทันที แบบอัตโนมัติ ทำให้คุณทราบทันที ว่าจุดไหนที่เกิดเหตุน้ำรั่ว
2.กล้องวงจรปิดแบบ Doorbell
อีกหนึ่งนวัตกรรมสำหรับคนยุค IOT ที่จะช่วยคุณระบุตัวบุคคล ที่เข้ามาบ้านของคุณ ผ่านสมาร์ทโฟนในมือคุณ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องออกไปดูหน้าบ้านเลย อุปกรณ์ชิ้นนี้จะทำการเปิดวิดีโอคอลผ่าน Doorbell หรือกระดิ่งอัจฉริยะ ให้คุณได้พูดคุยกับแขกผู้มาเยือนบ้านผ่านทางสมาร์ทโฟนได้ทันที อุ่นใจกับการบันทึกวิดีโอภายในตัวเครื่องและแจ้งเตือนอัตโนมัติได้ในทันทีผ่านระบบ WiFi หรือ อินเตอร์เน็ต
3.Smart LED หลอดไฟอัจฉริยะ
หลายคนคงเคยได้ยินหรือเคยรู้จักเจ้าหลอดไฟอัจฉริยะกันมาบ้าง...แต่เราจะย้ำให้ทุกท่านได้รู้จักถึงฟีเจอร์ความสามารถที่หลากหลายขึ้นไปอีก เพราะนอกจากที่มันสามารถเปิด-ปิดไฟ ได้ตามต้องการแล้ว คุณยังสามารถปรับความสว่างและโทนสีของหลอดไฟได้ผ่านทางสมาร์ทโฟน นอกจากนั้นหลอดไฟดวงนี้ยังรองรับระบบ Nest network ซึ่งเป็นระบบสั่งการจากเครือข่ายส่วนกลางภายในบ้านของคุณ ได้ทุกที่ทั่วโลก ให้ทุกกิจกรรมสว่างได้ตามใจปรารถนา ง่ายๆ เพียงแค่สัมผัสด้วยปลายนิ้ว
4.ปลั๊กไฟอัจฉริยะ
คุณจะไม่พลาดการลืมปิดปลั๊กไฟ หรือปิดกาน้ำร้อนอีกต่อไป ด้วย ปลั๊กไฟอัจฉริยะ ตัวนี้ ที่จะช่วยให้ระบบการควบคุมการได้ผ่านสมาร์ทโฟน ได้จากทุกที่ทั่วโลก เปลี่ยนการใช้ปลั๊กรูปแบบเดิมๆ ให้บ้านของคุณกลายเป็น Smart homeได้อย่างเต็มรูปแบบ หมดปัญหาการลืมถอดปลั๊กเมื่อออกจากบ้าน เพราะคุณสามารถจัดการเปิดปิดได้ทันทีผ่านระบบไร้สาย อีกทั้งยังสามารถตรวจเช็คได้ว่าใช้ปริมาณไฟฟ้าไปมากน้อยเพียงใดผ่านหน้าจอมือถือแบบ real time
นอกจากสินค้า IOT ที่กำลังมาแรงในขณะนี้ ก็ยังมีอุปกรณ์ IOT อีกนับ 100 ตัว ที่กำลังมาแรง และมีส่วนช่วยทำให้ชีวิตประจำวันคุณง่ายขึ้น สะดวกสบาย แถมประหยัดมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะ จนไปถึงเตียงนอน SmartBed ปรับระดับเตียงให้รองรับน้ำหนักแต่ละบุคคล เพื่อให้คุณนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสมาร์ทโฮม ไม่ได้เป็นเพียงแค่กระแสนิยม เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้องบอกเลยว่าอุปกรณ์ต่างๆที่กล่าวมานี้ จะช่วยให้ชีวิตคุณง่าย และสะดวกมากยิ่งขึ้น กว่าเดิมอย่างแน่นอน...มอบเทคโนโลยีใหม่ให้บ้านคุณ...เปลี่ยนการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาด ให้สะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม เลือกสินค้า IOT จาก WATASHI สิคะ ^^
]]>ปัญหาเรื่องน้ำไม่ใช่เรื่องสนุก ไม่ว่าจะเป็น น้ำท่วมบ้าน น้ำล้นห้องน้ำ ท่อน้ำแตก รวมถึงอีกหลายๆปัญหาน้ำ ที่เมื่อเกิดขึ้นที่ไร มักชวนให้เจ้าของบ้านปวดหัวไปตามๆกัน ซึ่งหลายครั้ง ที่ปัญหาเกี่ยวกับน้ำ ไม่เพียงแต่จะสร้างภาระให้ต้องเก็บกวาด ซ่อมแซม แต่ยังก่อให้เกิดความเสี่ยงอันตรายต่าง ๆ ที่คุณไม่อาจจะประเมินค่าได้ ว่าแล้วก็มาดูกันครับ ว่าความเสี่ยงที่ว่านั้นมีอะไรบ้าง ที่คุณต้องตระหนัก และหาทางป้องกันก่อนที่จะเกิดเหตุขึ้น
1. ความเสี่ยง จากการโดนไฟดูด อันตรายของการเกิดน้ำท่วมเป็นเรื่องที่น่ากังวล เพราะการถูกไฟดูดอย่างหนักมีผลต่อสุขภาพและอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ ฉะนั้นต้องระวัง หากเกิดน้ำท่วม ให้รีบสับเบรกเกอร์ลงทันที เพื่อป้องกันการลัดวงจรของไฟฟ้า และรอจนกว่าน้ำจะแห้งสนิทถึงจะกลับมาเปิดใช้งานไฟฟ้าได้อีกครั้ง
2. ความเสี่ยง จากทรัพย์สินที่เสียหาย อีกสิ่งหนึ่งความเสี่ยงที่หลายคนอาจจะไม่ทันได้เตรียมตัว เตรียมใจ เมื่อเกิดน้ำท่วมเฉียบพลัน คือ ความเสียหายของทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ต่างๆ ซึ่งความเสียหายอาจจะไม่รุนแรง หากคุณรู้เร็ว และแก้ปัญหาได้ทัน
3. ความเสี่ยง จากเอกสารสำคัญสูญหาย สิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญคือ เอกสารสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โฉนดที่ดิน เอกสารประกัน ทะเบียนบ้าน บัตรต่างๆ มักถูกลืม หรือ หายสูญหายไปกับเหตุการณ์น้ำท่วม เพราะคนส่วนใหญ่มัก หยิบจับสิ่งของมีค่าก่อนเสมอ ทำให้บ่อยครั้งเอกสารเหล่านี้เกิดการสูญหาย ขอแนะนำว่า ให้เก็บรวบรวมเอกสารสำคัญทุกอย่างในไว้ที่เดียวกันในซองกันน้ำ หรือกล่องพลาสติก เพื่อให้ง่ายต่อการขนย้าย หรือ ป้องกันความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม
4. ความเสี่ยง จากค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด เมื่อน้ำท่วมบ้าน หรืออุทกภัย ผ่านพ้นไปนั้น สิ่งหนึ่งที่ต้องตามมาอย่างแน่นอนเลย คือ ภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมทั้งบ้านเรือน ทรัพย์สิน และสุขภาพของผู้อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งจะมากจะน้อย ขึ้นอยู่กับเหตุกาณ์ เช่น หากท่อประปาแตก น้ำท่วมหลังบ้าน อาจจะเสียเงินแค่ค่าซ่อมท่อประปา พื้นไม้ ไม่มากนัก แต่ถ้าหากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ ความเสี่ยงของค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดอาจะสูงขึ้นตามไปด้วย เช่น ค่ารักษา พยาบาล ค่าซ่อมบ้าน ค่าเฟอร์นิเจอร์ และอื่นๆอีกมากมาย นี่จึงเป็นอีกความเสี่ยงที่หลายๆคนเลี่ยงไม่ได้
5. ความเสี่ยง อันตรายอันเกิดจากอุบัติเหตุ แทบทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วม มักมีผู้ได้รับอุบัติเหตุไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง เช่น ลื่นล้ม ไฟดูด ตกท่อ สัตว์เลื่อยคลานทำร้าย ฯลฯ ซึ่งหากใครไม่ได้วางแผนรับมือกับเหตุการณ์น้ำท่วมอย่างรอบคอบ อาจจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่าคนที่เตรียมรับมือ ฉะนั้น ทางที่ดีควรติดตามข่าวสาร หรือวิธีการรับมือ หากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม อย่างสม่ำเสมอ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับ ข้อมูลที่เรานำมาฝากกันวันนี้ ทั้งหมดนี้เป็นความเสี่ยงที่ WATASHI ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใครเลย ปัญหาน้ำท่วม หรือน้ำล้น เราสามารถระวัง หรือป้องกันได้ก่อนที่จะเกิดเหตุบานปลาย ด้วยการติดตั้งเซนเซอร์ตรวจจับน้ำล้น WATASHI รุ่น WIOT5002z ที่สามารถแจ้งเตือนน้ำล้น ไปยังสมาร์ทโฟนได้ทันที ตลอด 24 ชม. ไม่คุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ระบบก็สามารถแจ้งเตือน น้ำล้นจากถังน้ำ น้ำท่วมห้องน้ำ น้ำท่วมสนามหญ้า หรือแม้แต่น้ำท่วมใหญ่ ก็สามารถแจ้งได้ทันที ด้วยเซนเซอร์อัจฉริยะ ที่สามารถแยกแยะระดับความเสี่ยง พร้อมแจ้งเตือนคุณได้ทันที ช่วยให้คุณ ทราบปัญหาน้ำท่วม และแก้ปัญหาได้เร็วยิ่งขึ้น ทำให้ลดความเสี่ยงในระดับที่รุนแรงลง ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
]]>สำหรับใครมีบ้าน อยากให้ได้อ่านบทความนี้กันทุกคน กับข้อมูลทางสถิติห้องภายในบ้าน ที่ถูกโจรกรรมมากที่สุด เพื่อที่คุณจะได้ระวังตัว และตรวจเช็คความปลอดภัยของห้องเหล่านี้ ให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากที่วันนี้เราจะเปิดเผยสถิติตัวเลขให้คุณทราบแล้ว เรายังมาแนะนำเคล็ดลับ ในการเก็บของมีค่ายังไงให้ปลอดภัย จากการโดนขโมย ซึ่งช่วยลดโอกาสการถูกขโมย ลงได้กว่า 35% ว่าแล้วก็ตามมาดูข้อมูล 5 ห้องเป้าหมายภายในบ้าน ที่โจรมักมุ่งเป้ากวาดทรัพย์ เป็นอันดับแรกกัน
ห้องแต่งตัวเป็นอีกห้องหนึ่งที่ถูกงัดแงะ เข้าไปขโมยทรัพย์สินอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งห้องแต่งตัวสำหรับบ้านของผู้มีฐานะ มักมีตัวเก็บ นาฬิกา แหวน กำไล เครื่องประดับ ที่หยิบใส่ง่าย ใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้ขโมย มักเลือกกวาดทรัพย์สินภายในห้องนี้ไปแทบจะทุกครั้งที่มีการโจรกรรม
ห้องนั่งเล่นก็เป็นอีกห้องหนึ่งที่มัก โดนกวาดทรัพย์สิน ซึ่งมีจำนวนคดีไม่น้อย ที่ทรัพย์สินหาย เพราะวางไว้ที่ห้องนั่งเล่น หรือห้องรับแขก เพราะหลายๆคนมักมีพฤติกรรม วางของมีค่าไว้ที่ห้องรับแขก ภายในบ้าน ทั้งกลางวัน หรือกลางคืน แล้วเผลอลืมขึ้นนอน หรือ ขณะไม่ได้อยู่หน้าบ้าน เช่นไปทำความสะอาด ซักผ้าหลังบ้าน ฉะนั้น ทางที่ดี เราขอแนะนำให้นำของมีค่าติดตัว หรือเก็บในที่มิดชิดอยู่เสมอ
รู้แบบนี้แล้ว อย่าลืมรีบกลับไปเช็คความปลอดภัย และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้การวางของไม่เป็นที่เป็นทางใหม่ เพื่อลดโอกาสในการถูกโจรกรรม และลดมูลค่าความเสียหายให้น้อยลงได้ ซึ่งจากสถิติ อีก 1 ห้อง ห้องที่โจรมักจะไม่เข้าไปรื้อค้น ทรัพย์สินคือ ห้องนอนเด็ก ด้วยเหตุผลส่วนใหญ่ที่ว่า ศีลธรรมเกี่ยวกับเด็ก และห้องเด็กมักไม่มีของมีค่าที่มากพอ อีกทั้งหากเด็กร้องไห้ คนทั้งบ้านจะตื่นและรีบเข้ามาดูเด็ก ทำให้มีโอกาสถูกจับได้สูง ดังนั้น ห้องเด็กเล็กจึงเป็นห้องที่มีโอกาสที่โจรจะเข้าไปลักทรัพย์ได้น้อยที่สุด ซึ่งหากอยากให้ทุกห้องในบ้าน ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น WATASHI เองก็มีอุปกรณ์ เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว หรือ แจ้งเตือนการงัดแงะประตู หน้าต่าง ผ่านสมาร์ทโฟน ได้ทันที มาฝากกัน ในชื่อรุ่น WIOT5010z และ WIOT5006zตามลำดับ ติดแล้วอุ่นใจ ปกป้อง ทรัพย์สิน และคนที่คุณรัก ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
]]>
อันตรายจากการเกิดอัคคีภัย เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายมากยิ่งขึ้น หากขาดการดูแล ในจุดที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ ที่มากพอ ฉะนั้นเราจึงควรที่จะค้นหาจุดเสี่ยง และปรับแก้ไขเพื่อช่วยลดโอกาสเกิดอัคคีภัยลงให้ได้มากที่สุด ซึ่งวันนี้ WATASHI ได้นำเอา 5 จุดเสี่ยง ที่แก้ไขแล้ว ช่วยลดการเกิดอัคคีภัยลงได้อย่างแน่นอน มาฝากกัน
ทุกๆคนน่าจะเคยเห็นข่าว ผ่านทางสื่อต่างๆอยู่บ่อยครั้ง ถึงการเกิดเหตุเพลิงไหม้เพราะไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ มักจะเกิดจากการเสียบปลั๊กหรือเชื่อมต่อสายไฟฟ้าทิ้งเอาไว้ข้ามวัน ทำให้ตัวชาร์จไฟที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจจะเกิดการลัดวงจร นำมาสู่สาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ได้ ซึ่งแนะนำว่า ไม่ควรจะเสียบปลั๊กไฟทิ้งไว้ เลยในทุกกรณี ไม่ว่าจะออกไปไหนใกล้ หรือไกล เมื่อใช้เสร็จควรถอดปลั๊กไฟทันที
ควรแยกปลั๊กไฟ สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ต้องใช้กำลังไฟมากเป็นพิเศษ เช่นเตาไมโครเวฟ ตู้เย็น คอมพิวเตอร์ แอร์ เครื่องซักผ้า เพราะการนำเอาเครื่องไฟฟ้าหลายตัว มาเสียบปลั๊กไฟจากจุดเดียวกัน และเปิดใช้งานพร้อมกันนั้น อาจจะส่งผลให้เกิดกระแสไฟฟ้าเกิน หรือที่เราเรียกว่า Overload อันเป็นเหตุให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรและเกิดเพลิงไหม้ลุกลามได้
ไม่ควรใช้ หรือซ่อมปลั๊กไฟที่ชำรุดเสียหาย อีกต่อไป เพราะการใช้สายไฟที่ชำรุดเสียหาย หรือไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์นั้น นอกจากจะเป็นอันตรายกับตัวเอง แล้วยังอาจจะเกิดการช็อต ส่งผลทำให้เกิดประกายไฟ นำไปสู่การเกิดเพลิงไหม้ได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นควรหลีกเลียงการใช้สายไฟเก่า ควรเปลี่ยนสายไฟใหม่ทันที่ที่ชำรุด
ในหลายกรณีที่เกิดเพลิงไหม้ เกิดขึ้นเพียงเพราะการจุดเทียนบูชาพระ ทิ้งไว้ แล้วลืมดับ ซึ่งเที่ยน อาจจะล้ม หรือเปลวไฟอาจจะไปโดนเชื้อไฟ และลามนำไปสู่เหตุอัคคีภัยได้ แนะนำว่า ทางที่ดีควรจุดธูปหรือเทียนไว้นอกอาคาร หรือหากมีการจุดธูปและเทียนแล้วก็ควรจะอยู่ดูแลให้ดับสนิทลงก่อน
การใช้งานเตาแก๊สและ ถังแก๊สอย่างถูกวิธี ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ติดตั้ง คุณภาพและวัสดุอุปกรณ์ รวมถึงอายุของสายท่อแก๊ส เพื่อให้อุปกรณ์ทั้งหมดอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากแก๊สรั่ว อันเป็นสาเหตุของการเกิดอัคคีภัย รวมถึงการใช้งานเตาแก๊สอย่างถูกวิธีและไม่ประมาท ไม่เปิดวาล์วแก๊สทิ้งไว้ ในหลายกรณี เพราะหากลืมปิดแก๊ส แล้วเกิดประกายไฟ อาจทำให้เกิดระเบิดขึ้นได้
ซึ่งสำหรับหลายๆคนที่กังวล และอยากที่จะได้ตัวช่วย ที่ช่วยดูแลบ้านของเราว่า หรือหากเกิดเหตุการณ์อะไรที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น จะแก้ไขสถานการณ์ได้ทันเวลา เราขอแนะนำ เซนเซอร์ 2 รุ่น จาก WATASHI ที่สามารถตรวจจับควัน และแก๊สรั่ว พร้อมแจ้งเตือนผ่านโทรศัพท์ได้ทันที รุ่น WIOT5004z และ WIOT5003z ตามลำดับ ป้องกันไว้ก่อน ดีกว่าแก้ไขทีหลัง ให้ Watashi ดูแลคุณนะคะ
วันนี้ เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับสิ่งของที่อาจก่อให้เกิดประกายไฟใกล้ตัว ที่หลายคนอาจจะนึกไม่ถึง ว่าสิ่งของเหล่านี้สามารถก่อเกิดประกายไฟได้ง่ายมาก หากวางไว้ใกล้เตาแก๊ส เพื่อที่คุณจะได้เช็คและนำสิ่งของอันตรายเหล่านี้ออกให้ห่างจากเตาแก๊ส
การติดตั้งปลั๊กไฟ ไม่ควรติดตั้งไว้ใกล้กับเตาแก๊สจนเกินไป เพราะอาจจะเกิดการสปาร์กของปลั๊กไฟ ทั้งในขณะเสียบปลั๊ก หรือเกิดการขยับอาจส่งผลให้เกิดแก๊สระเบิดได้ หากกรณีแก๊สเกิดรั่วขึ้นมา
ถังแก๊สที่เราใช้อยู่นั้น ถึงแม้ว่าตัวถึงจะทำจากโลหะ และถูกโฆษณาว่ามีอายุใช้งานที่ทนทานแค่ไหนก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าจะทนทานต่อสารกัดกร่อน เช่นกรดกำมะถัน กรดดินประสิว กรดเกลือ ฯลฯ ด้วยเหตุนี้เอง จึงควรแยกสารเคมีบางชนิด ที่มีฤทธิ์กัดกร่อนโลหะ ออกให้ห่างจากถังแก๊ส ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุทำให้ตัวถังแก๊สเสื่อมคุณสมบัติ หรือรั่วลงได้เร็วกว่าเวลาอันควร
โทรศัพท์มือถือ ถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทหนึ่ง ที่มีการส่งสัญญาณ ด้วยเหตุนี้เอง จึงมีโอกาสที่จะเกิดการกระตุ้นของสัญญาณไฟฟ้า นำไปสู่การก่อให้เกิดประกายไฟได้ ส่งผลให้อาจจะเกิดการระเบิดตามมา ซึ่งเรามักจะเคยได้ยินข่าวลักษณะนี้กันมาบ้าง
บางคนอาจจะถามว่าในสมัยนี้กันแล้วยังมีคนใช้ไม้ขีดไฟอยู่เหรอ แถมถ้ามีเตาแก๊สอยู่แล้วจะมีไม้ขีดไฟไปทำไมไม่จำเป็นต้องใช้จุดเตาซะหน่อย แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นไม้ขีดไฟก็ยังคงเป็นสิ่งที่สามารถพบเห็นได้ในชีวิตประจำวันเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะมักจะถูกนำมาใช้ในการจุดธูปเทียน ซึ่งถือเป็นวัตถุไวไฟประเภทหนึ่ง ที่อาจจะก่อเกิดไฟไห้ หากโดนความร้อนที่สูงมากพอ จึงไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะเอาไปตั้งหรือวางเอาไว้ใกล้กับเตาแก๊ส
บุหรี่และที่เขี่ยบุหรี่แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่มีประกายไฟแฝงอยู่ในตัว ซึ่งบุหรี่ที่จุดแล้วยิ่งเป็นสิ่งที่อันตรายเป็นอย่างมากที่จะปล่อยวางไว้ใกล้ เตาแก๊ส หากเตาแก๊สนั้นเกิดแก๊สรั่ว ขึ้นมา อาจจะทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ได้
ธูปและเทียนที่ถูกจุดสำหรับไหว้หรือบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในประเทศไทยเรานั้น ถืออีกสาเหตุหนึ่ง ยอดฮิตที่เกิดไฟไหม้ เนื่องจากมีการจุดเพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในร้านอาหาร และบ่อยครั้ง มักจะเผลอวางไว้ใกล้กับเตาแก๊สอยู่เสมอๆ ฉะนั้นแนะนำให้ระวังและปรับเปลี่ยนตำแหน่งการจัดวางธูปเทียนใหม่ ให้ปลอดภัยและเหมาะสม รวมถึงดับให้เรียบร้อยเมื่อออกไปนอกบ้านหรือเข้านอน
จะเห็นได้ว่า มีสาเหตุอื่นๆอีกมากมาย ที่จะทำให้เกิดการกระตุ้นให้เกิดเพลิงไหม้ จากเตาแก๊สได้ง่ายๆ จึงควรที่จะระมัดระวังและ ลดโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดอัคคีภัยให้ได้มากที่สุด แต่สำหรับท่านใด ที่ต้อการความมั่นใจ แนะนำให้ติดตั้ง เซนเซอร์ 2 รุ่น จาก WATASHI ที่สามารถตรวจจับควัน และแก๊สรั่ว พร้อมกับรับการแจ้งเตือนผ่านโทรศัพท์ได้ทันที เมื่อเกิดเหตุ กับ Sensor รุ่น WIOT5004z และ WIOT5003z ที่ติดตั้งเอาไว้ภายในบ้านและร้านอาหาร เพื่อแจ้งเตือน ทันทีที่เกิดแก๊สรั่ว และเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้
]]>
อัคคีภัย ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สิน เลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งแม้เราอาจจะมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่ก็ไม่ควรประมาท และควรที่จะเรียนรู้วิธีเอาชีวิตรอด เมื่อยามเกิดเหตุอัคคีภัยเกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้เอง วันนี้เราจึงนำข้อมูลดีๆ ในปฏิบัติตัว เพื่อเอาชีวิตรอดเมื่อยามเกิดเหตุอัคคีภัย มาฝากทุกๆท่านกัน
วิธีเอาตัวรอดอัคคีภัยที่ดีที่สุด นั่นก็คือ การรู้จักป้องกันระวังไม่ให้เกิดอัคคีภัยหากแต่ถ้ามันเกิดขึ้นแล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องทำ คือ ต้องรู้จักควบคุมเพลิง ในเบื้องต้นให้เป็น หากยังสามารถควบคุมเพลิงได้ ในหลายกรณีท่านอาจจะพบเจอเพลิงที่เพิ่งเริ่มลุกไหม้ ซึ่งยังสามารถควบคุม ได้ง่าย โดยการใช้ผ้าชุบน้ำคลุมต้นเพลิง หรือ ใช้ถังดับเพลิงในการควบคุมเพลิง แล้วรีบแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ที่ใกล้ที่สุดในทันที เพื่อเข้ามาระงับเหตุ
วิธีเอาตัวรอดวิธีนี้ เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด แต่หลายคนมักจะไม่ค่อยทำกัน นั่นก็คือการ เซฟเบอร์โทรฉุกเฉิน ของหน่วยงานราชการสำคัญต่างๆ เช่น ดับเพลิง หรือเบอร์โทรแจ้งตำรวจ โรงพยาบาล ที่เราสามารถขอความช่วยเหลือได้ในทันที โดยที่ไม่ต้องโทรศัพท์เข้าหาหน่วยงานส่วนกลาง หรือ Call Center เพื่อต่อสายให้ยุ่งยาก เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้
อีกหนึ่งวิธี ที่เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แนะนำ ในการเอาตัวรอดคือ การใช้ถุงพลาสติกใสครอบศีรษะ สำหรับใช้เก็บอากาศบริสุทธิ์ เพื่อไม่ให้ปอดสูดควันไฟ หากคุณตกอยู่ในสถานการณ์ที่อยู่ท่ามกลางเหตุเพลิงไหม้ในตัวบ้าน หรือในห้างสรรพสินค้า ให้เอาถุงพลาสติกดังกล่าวมาเปิดออกเอาอากาศใส่ไว้ข้างในแล้วเอามาหุ้มที่ศีรษะ จากนั้นทำการคลานต่ำ เพราะอากาศและควันไฟ จะลอยขึ้นสูง ซึ่งเป็นการช่วย ป้องกันไม่ให้ปอดสูดควันไฟเข้าไป ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของคนที่ติดอยู่ในอาคารที่เกิดเพลิงไหม้เป็นจำนวนมาก ทั้งที่ไฟยังไม่ได้ไหม้ร่างกายเลยก็ตาม
ในปัจจุบันอาคารสูงและคอนโดมิเนียมรวมทั้งห้างสรรพสินค้า ทุกแห่ง จะมีกฎหมายควบคุมอาคารที่กำหนดให้ จะต้องจัดให้มีเส้นทางหนีไฟและบันไดหนีไฟเตรียมพร้อมสำหรับการรับมือเหตุฉุกเฉิน ด้วยเหตุนี้เองไม่ว่าท่านจะไปเที่ยว หรืออาศัยในตึกใด ควรจะสำรวจเส้นทางหนีไฟ เอาไว้ด้วยทุกครั้ง เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ท่านจะได้หลบหนีออกจากตัวอาคารที่เกิดเพลิงไหม้ได้ทันที และเร็วที่สุด
เมื่อเกิดเพลิงไหม้ในระดับสูงที่เกิดควันไฟและท่านติดอยู่ในห้องพักหรือตัวอาคาร วิธีที่ปลอดภัยที่สุดที่ท่านจะนำท่านออกมายังสถานที่ปลอดภัย ท่ามกลางควันไฟที่ทำให้มองไม่เห็นนั่น คือ พยามเดินชิดผนังเข้าไว้จะได้ไม่เดินไปชนอะไร จากนั้น ค่อยๆเดินอย่างมีสติไปสู่เส้นทางหนีไฟ เพื่อหนีออกนอกพื้นที่ไฟไหม้
จาก 5 วิธี ที่เรานำเอามาฝาก ข้างต้นนั่น คือ วิธีการเอาตัวรอดในเบื้องต้น เมื่อเกิดเหตุอัคคีภัยในทุกสถานการณ์ ซึ่ง สำหรับเจ้าของอาคาร หรือบ้านพักอาศัย ที่ต้องการที่จะลดความเสี่ยง ของการเกิดเหตุเสียชีวิต หรือทรัพย์สิน เมื่อเกิดอัคคีภัย แนะนำให้ติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจจับควันไฟ WATASHI รุ่น WIOT5004z เพื่อรับการแจ้งเตือน เมื่อเกิดควันไฟ และเพลิงไหม้ ได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อที่คุณจะทราบเหตุเพลิงไหม้ และตัดสินใจแก้ปัญหา หรืออพยพออกมาได้อย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อช่วยชีวิตคนที่คุณรัก และทรัพย์สินอันมีค่า ได้อย่างทันท่วงที
]]>
1.การรักษาความปลอดภัยในฐานข้อมูล
ข้อมูลหลายอย่างนั้นถูกเก็บไว้เป็นความลับในฐานข้อมูล แต่เมื่อมีการพัฒนาระบบ Business-to-Business (B2B) ในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะการเงินทำให้มีการนำ IoT เข้ามาร่วมอยู่ในระบบดังกล่าวกลายมาเป็น EIoT (Enterprise Internet of Things) ที่ทำการแจ้งเตือนเมื่อมีผู้จะเปลี่ยนแปลงข้อมูลในฐานข้อมูลที่ปกปิดไว้เป็นความลับ หรือคำสั่งใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดช่องทางทุจริต อาทิ เช่นการเตือนการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เป็นต้น
2.พัฒนาต่อยอดสู่ Digital Badge
เป็นการนำเอา EIoT เข้ามาพัฒนาต่อยอดสู่ระบบการควบคุมการทำงานของพนักงาน User ที่พนักงานจะต้องพกเซ็นเซอร์ไว้ทำการตรวจจับว่าปฏิบัติงานอยู่ตรงไหนบ้างแบบ Real Time นอกจากจะควบคุมการทำงานพนักงานได้แล้ว ยังทำให้สามารถทราบถึงผู้บุกรุก หรือตรวจจับบุคคลน่าสงสัยที่เข้ามาภายในอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตได้อีกด้วย
3.การพัฒนาความปลอดภัยในระบบ IoT
เนื่องจากการเจริญเติบโตของเทคโนโลยี IoT เริ่มใกล้ชิดมนุษย์มากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นระบบบ้านอัจฉริยะ กล้องวงจรปิดไร้สาย อุปกรณ์เน็ตเวิร์ค ระบบการใช้งานสมาร์ทโฟน ทำให้ผู้ให้บริการเองก็มีการพัฒนาต่อยอดการรักษาความปลอดภัยในระบบ IoT ให้มากยิ่งขึ้นเช่นกันเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานเป็นสำคัญ
]]>1.ระบบสวิทซ์ไฟอัจฉริยะ Smart Wi-Fi Touch Switch รุ่น WATASHI WIOT3002-3004
โดยเป็นระบบการควบคุมไฟฟ้าและไฟส่องสว่าง ซึ่งจะทำให้เราสามารถควบคุมดูแล และบริหารจัดการระบบไฟภายในบ้านผ่านระบบอินเตอร์เน็ตทำให้เหมาะสมกับการใช้ภายในบ้านสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางหรือไม่ค่อยได้อยู่บ้านบ่อย ๆ อาคารสำนักงานและโรงแรม โดยรุ่นที่เราแนะนำก็คือ Smart Wi-Fi Touch Switch รุ่น WATASHI WIOT3002-3004
2.กล้องวงจรปิดไร้สายอัจริยะ Home Security Camera
โดยเฉพาะ รุ่น WATASHI WIOT1001 เหมาะสมกับการติดตั้งภายในบ้านพักอาศัย ที่มีดีกว่าทั่วไปด้วยระบบ IoT ที่ทำให้เราพูดคุยกับผู้ที่อยู่หน้ากล้องได้ผ่านมือถือ จะติดตั้งไว้ดุแลผู้สูงอายุ พูดคุยเล่นกับสัตว์เลี้ยง หรือส่งเสียงไล่โจรผู้ร้ายก็ทำได้เหมือนกัน
3.รีโมทอัจฉริยะ Wi-Fi Smart Controller รุ่น WATASHI WIOT2001
ปัญหาการลืมปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ จะหมดไปเมื่อคุณเลือกใช้รีโมทอัจฉริยะที่สามารถตรวจสอบและสั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้ากว่า 200,000 ประเภท ทั่วโลกได้ง่าย ๆ เพียงปลายนิ้วสั่งการผ่านมือถือ
4.กล้องกระดิ่งไร้สายอัจฉริยะ VIDEO Doorbells รุ่น WATASHI WIOT1003
กระดิ่งแจ้งเตือนว่ามีแขกมาหน้าบ้านรุ่นใหม่ ที่ทำให้ท่านทราบผ่านกล้องก่อนว่าใครที่เข้ามาทักทายคุณ และทำให้พูดคุยกันได้ด้วยระบบ VDO calling พร้อมแสกนอินฟราเรตบันทึกภาพป้องกันคนร้าย
5.กล้องวงจรปิดไร้สายอัจฉริยะพลังงานต่ำ รุ่น WATASHI WIOT1002 Low-power intelligent security solution 960
เหมาะสำหรับติดตั้งบริเวณภายนอกอาคาร โรงงาน และพื้นที่ห่างไกลที่ใช้พลังงานต่ำมากด้วยความจุที่ชาร์จเพียง 1 ครั้งใช้ได้นานถึง 3 เดือน กับฟังก์ชัน Sleep mode ที่ทำงานเมื่อตรวจพบการเคลื่อนไหว
รวมสินค้า IOT แบรนด์ WATASHI
Call Center สายด่วน WATASHI
]]>
ตามมาด้วยการดูแลรักษาความปลอดภัยตั้งแต่ประตูบ้านของเราอย่าง กล้องกระดิ่งไร้สายอัจฉริยะ ของ VIDEO Doorbells รุ่น WATASHI WIOT1003 ที่เมื่อติดตั้งไปแล้วจะทำให้ท่านสามารถตรวจสอบภาพผู้ที่มาเคาะประตูบ้านและทำการบันทึกภาพในทันทีที่มีคนเข้ามาหา ช่วยเพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และสำหรับอนาคตใหม่ยุค 2019 นี้ ก้าวต่อไปของ IoT นั้นก็คือ เทคโนโลยีในฝันอย่าง ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI นั้นเอง
โดยเริ่มจากการเพิ่มความอัจฉริยะให้หุ่นยนต์เพิ่มมากขึ้น อันเนื่องมาจากการนำ IoT เข้ามา ทำให้เราอาจจะได้พบกับหุ่นยนต์รุ่นใหม่ที่มีความฉลาดยิ่งขึ้น มี IQ และการทำงานผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้หลายรูปแบบ อาทิ การทำงานด้านการเกษตรในรูปแบบของโดรนที่ใช้ดูแลพืชสวน รวมทั้ง การพ่นยาและสารเคมีด้านบนจากโดรนที่ทำได้ง่าย และปลอดภัยมากกว่าเดิม เรียกรวมสองระบบว่า "AI–IoT"
นอกจากนี้ยังมีการนำระบบ AI ที่เชื่อมต่อและทำงานผ่าน IoT มาใช้ควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านมากยิ่งขึ้น ไปจนถึงการเปิดตัวต้นแบบยานยนต์ขนส่งสาธารณะ ที่ควบคุมด้วย AI และทำงานผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต รวมทั้ง นวัตกรรมหุ่นยนต์ตัดหญ้า และระบบครัวอัจฉริยะที่จะฉายภาพสอนวิธีทำอาหารให้กับคุณอีกด้วย
]]>เป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับคนที่เกิดในยุคปัจจุบันและยุคอนาคตต่อไปข้างหน้า เมื่อเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตกำลังเข้ามามีส่วนสำคัญในชีวิตของเราผ่านระบบ IoT นั้นเอง อาทิเช่น การดูแลคุณพ่อคุณแม่หรือผู้สูงอายุที่ต้องอยู่เฝ้าบ้าน ในขณะที่เราต้องไปทำงานนอกบ้าน แม้จะจ้างคนงานมาดูแลก็มีหลายกรณีให้เห็นแล้วว่ายังไม่สามารถไว้ใจให้เอาใจใส่ผู้ใหญ่ของเราได้เท่าตัวเราเอง
ข่าวดีก็คือเทคโนโลยี IoT ได้ช่วยให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นเมื่อ ซึ่งก็คือกล้องอัจฉริยะ Home Security Camera รุ่น WATASHI WIOT1001 ที่เอาไว้ติดตั้งมองภาพต่าง ๆ ภายในบ้านและเปิดโอกาสให้เราพูดคุยดูแลผู้สูงอายุที่บ้านเราได้ตลอดเวลาผ่านทางหน้ากล้อง ไมค์ และลำโพง ทำให้เราทราบทุกอาการความเป็นอยู่ของผู้ใหญ่ที่เรารัก
ตามมาด้วยท่านใดที่มีสถานะเป็น "ทาส" น้องแมว น้องหมา ทั้งหลาย ที่ต้องปล่อยให้น้อง ๆ รอคอยอยู่ในบ้านมองหาแต่คุณรอให้กลับบ้านแบบเหงา ๆ เราขอแนะนำนี้เลย รุ่น WATASHI WIOT1001 จะช่วยแก้ปัญหานี้ให้ท่านได้พูดคุยเล่นกับน้อง ๆ ได้ตลอดเวลาจากที่ทำงานผ่านมือถือและระบบ IoT
หรือท่านใดที่ต้องการหาอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยไปติดตั้งในที่ห่างไกล หรือไม่มีระบบไฟฟ้า นอกรั้วอาคาร หรือตึกโกดังใหญ่ ที่เดินสายไฟระบบกล้องวงจรปิดแบบธรรมดาได้ยาก เราขอแนะนำกล้องวงจรปิด รุ่น WATASHI WIOT1002 Low-power intelligent security solution 960 แบบประหยัดพลังงาน ที่ทำงานได้นาน 3 เดือน ต่อการบรรจุพลังงานหนึ่งครั้งเท่านั้นเอง
IoT จึงกลายมาเป็นเทคโนโลยี อีกหนึ่งประเทศที่เราอยากแนะนำให้ท่านได้เรียนรู้และลองใช้งานต่อไป
]]>ระบบการทำงานในรูปแบบ IoT นั้น ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างสะดวกสบายมายิ่งขึ้น และกำลังทวีความสำคัญในชีวิตประจำวันขึ้นทุกขณะโดยในถูกนำมาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ในปัจจุบัน ดังนี้
1.งานด้านสื่อสารสนเทศและการด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ
จากการที่เทคโนโลยีด้านการสื่อสารและอุปกรณ์สารสนเทศพัฒนาไปมาก ทำให้พฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนในยุคใหม่เปลี่ยนไป จากการชมภาพยนตร์และละคร หรือรายการต่าง ๆ ผ่านหน้าจอโทรทัศน์ กลายมาเป็นรับชมรายการผ่านระบบอินเทอร์เน็ตและแสดงผลโดยหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน ทำให้ บริษัทเอกชนหลายบริษัทเลือกจะหันมาใช้บริการการโฆษณาผ่านระบบอินเทอร์เน็ตมากกว่า
2.งานด้านการเงิน และระบบส่งเสริมการขาย
อีกหนึ่งงานที่ระบบ IoT ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายและพบเห็นได้เป็นปกติก็คือ การให้บริการด้านการเงินผ่านแอพที่ติดตั้งลงสมาร์ทโฟน ซึ่งสามารถรับส่งข้อมูล การโอน ฝาก ถอน ผ่านแอพธนาคารต่าง ๆ การซื้อสินค้าในร้านสะดวกซื้อที่เพียงแสดงบาร์โค้ดของแอพการเงินให้ทางร้านทำการรับชำระเงินผ่านระบบอินเทอร์เน็ตโดยไม่ต้องพกเงินสดเป็นต้น
3.การลดภาระหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานลง
งานหลายรูปแบบที่เคยต้องใช้คนดำเนินการในปัจจุบันถูกเปลี่ยนเป็น IoT หลายอย่างแล้ว อาทิ การจดมาตรวัดน้ำและไฟฟ้าที่ใช้การตรวจสอบการใช้งานผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ต้องให้คนไปเดินจดเหมือนแต่ก่อน
4.การใช้งานด้านการแพทย์
มีหลายเคสที่มีการนำ IoT มาใช้รักษาผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานกล้องขนาดจิ๋วที่สามารถเข้าไปตรวจความผิดปกติร่างกายผ่านระบบกระแสเลือด การให้บริการผ่าตัดและรักษาคนไข้ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ในกรณีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอยู่ในระยะไกลไม่ได้อยู่ในพื้นที่ เป็นต้น
นี้เป็นเพื่อตัวอย่างการใช้ประโยชน์จาก IoT บางด้านเท่านั้นที่มีการนำมาใช้อย่างแพร่หลาย และยังมีอีกมากมายหลายอย่างที่ IoT จะเข้ามามีส่วนในชีวิตประจำวัน
]]>ในทุกวันนี้อุปกรณ์ IoT เริ่มเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันเราโดยที่หลายคนอาจไม่เคยสังเกต หากแต่ถ้ามองดูดี ๆ จะพบว่าเรามีอุปกรณ์ IoT อยู่รอบตัวเรา ในบทความนี้เราจะขอนำเสนออุปกรณ์เครื่องใช้ในชีวิตประจำวันที่เหมาะสำหรับการเปลี่ยนมาใช้เป็นอุปกรณ์แบบ IoT ที่ทำงานได้ดีกว่า ดังนี้
1.กล้องวงจรปิด
กล้องวงจรแบบเก่านั้นติดตั้งยากซึ่งถูกจัดการได้แค่ตัดสายไฟรวมทั้งการทำลายอุปกรณ์บันทึกในบ้าน หากแต่ถ้าเปลี่ยนมาเป็นกล้องวงจรปิดแบบ IoT อาทิ Home Security Camera รุ่น WATASHI WIOT1001 หรือ รุ่น WATASHI WIOT1002 Low-power intelligent security solution 960 ที่มองดูภาพผ่านมือถือได้ง่ายในทันที
2.กระดิ่งหน้าบ้าน
กระดิ่งหน้าบ้านเดิม ๆ นั้น ทำได้แค่เพียงส่งเสียงให้ทราบว่ามีคนมาเท่านั้น หากแต่ปัจจุบันมีกระดิ่งไร้สายแบบ IoT ที่ทำได้มากกว่านั้น อาทิ VIDEO Doorbells รุ่น WATASHI WIOT1003 ที่นอกจากจะกดแจ้งเตือนคนมาบ้านแล้ว ยังกดวีดิโอคอลคุยกันทางสมาร์ทโฟนก่อนได้เลยว่าคุณเป็นใครมาจากไหน พร้อมสแกนใบหน้าไว้เพื่อความปลอดภัยต่อไป
3.ปลั๊กไฟ
หมดยุคแล้วสำหรับปลั๊กไฟแบบเก่า นี้เลยมาใช้ ปลั๊กไฟอัจฉริยะ Smart Power Plug รุ่น WATASHI WIOT3001 กันดีกว่า มันดีอย่างไรนะเหรอ มันสามารถควบคุมระบบไฟฟ้าจากระยะไกลผ่านมือถือได้ด้วยระบบ IoT อีกทั้งยังตั้งเวลา เปิดและปิดอุปกรณ์ได้อีกด้วยนะ
4.สวิตซ์ไฟ
ถ้าอยากรู้ว่าเป็นอย่างไรก็แนะนำให้ใช้ลองใช้ Smart Wi-Fi Touch Switch ตั้งแต่รุ่น WATASHI WIOT3002 - 3004 ซึ่งทำให้ท่านสามารถควบคุมระบบไฟส่องสว่างภายในบ้านและอาคารผ่านระบบ IoT ได้ง่าย เช่นกัน
5.รีโมท
ปิดท้ายด้วย รีโมท IoT อัจฉริยะ Wi-Fi Smart Controller รุ่น WATASHI WIOT2001 ซึ่งทำท่านสามารถสั่งงานอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมดในบ้านได้ผ่านมือถือสมาร์ทโฟน นั้นเอง
]]>รู้หรือไม่ เดี๋ยวนี้ใครๆก็หันมาใช้ เทคโนโลยี IoT ในชีวิตประจําวัน กันแล้ว
โลกที่สรรพสิ่งเชื่อมโยงอย่างรวดเร็วด้วยระบบอินเทอร์เน็ตในรูปแบบที่เรียกว่า IoT ดูจะใกล้เป็นความจริงเข้ามาทุกทีในอนาคตอันใกล้ เมื่อในทุกวันนี้เราสามารถพบเห็นการนำ IoT มาใช้ในชีวิตประจำวันได้มากยิ่งขึ้น ในบทความนี้เราจะขอนำเสนอ 5 ประโยชน์ ที่มีการนำ IoT มาใช้กันครับ
1.ระบบการสั่งงานสมาร์ทโฟนด้วยเสียง
เป็นระบบ IoT ที่ถูกนำมาใช้กับการควบคุมสมาร์ทโฟนในสมัยใหม่ที่เราจะเห็นในมือถือแทบทุกยี่ห้อ อาทิ ระบบ Voice Access ของ ระบบปฏิบัติการ Android ที่บริษัท Google แทนการสั่งการด้วยการสัมผัสหน้าจอ
2.ระบบไฟอัจฉริยะ
เป็นระบบ IoT ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถดูแลสั่งการ การทำงานของระบบไฟส่องสว่างภายในบ้าน การปรับระดับแสงหรือสีไฟ รวมทั้งการตั้งเวลานับเปิดปิด ทั้งจากการสั่งการด้วยเสียงและระบบตรวจจับการเคลื่อนไหว รวมทั้งการสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟน
3.ระบบการระบบเตือนภัยอัจฉริยะ
เป็นระบบ IoT ที่จะทำการตรวจจับการทำงานต่าง ๆ ของเครื่องใช้ภายในบ้าน และจะทำการเตือนภัยต่าง ๆ ผ่านไปยังสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็น การลืมปิดน้ำ ปิดไฟ การพบควันและประกายไฟติดในบ้าน แก๊สรั่วซึม หรือน้ำล้นท่วมบ้าน นั้นเอง
4.ระบบควบคุมเครื่องปรับอุณหภูมิภายในบ้าน
สำหรับเมืองไทยที่ร้อนและร้อนมากในแต่ละวัน ท่านจะสามารถสั่งงานเครื่องปรับอุณหภูมิได้ล่วงหน้าก่อนเดินทางกลับถึงบ้านทาง ระบบ IoT ให้เย็นได้ทันทีที่กลับบ้าน
5.ระบบสตาร์รถและควบคุมรถแบบไร้สาย
เป็นระบบ IoT แบบใหม่ในธุรกิจยานยนต์ที่เริ่มมีการจำหน่ายรถยนต์ที่รองรับระบบดังกล่าวออกมาใช้จริงแล้ว เริ่มจากเปิด ปิด ล็อค รถยนต์ จากระยะไกลผ่านแอพในสมาร์ทโฟน นั้นเอง
นี่จึงเป็น 5 ระบบ การประยุกต์ใช้ประโยชน์จาก ระบบ IoT ที่มีการใช้ให้เห็นแล้วในปัจจุบันครับ
]]>และหนึ่งในผลงานนวัตกรรมใหม่ที่ นำเอาระบบ IoT และเทคโนโลยีหุ่นยนต์นั้นก็คือ "หุ่นยนต์รักษาความปลอดภัย" ที่มีการพัฒนาต่อยอดจนสามารถนำมาจำหน่ายและใช้จริงในท้องตลาดแล้วในวันนี้ เริ่มตั้งแต่รุ่นที่ติดหูอย่าง หุ่นยนต์ตัวสีขาวอ้วนทรงจรวจอย่าง โรเซ่ รุ่น K5 ที่เป็นผลงานของทีมบริษัทใน Silicon Valley ที่มีเห็นในอาคารธุรกิจสำนักงานต่าง ๆ มากขึ้นแล้วในอเมริกา
รุ่นต่อไปที่ถูกเข็นออกมาโชว์และจำหน่ายในปัจจุบันก็คือ หุ่นยนต์รุ่น Ramsee จากบริษัท Gamma 2 Robotics ที่เน้นคอนเซ็ปพนักงานที่ ไม่ป่วย ไม่สาย ไม่ลา ไม่ขาด ไม่แอบอู้หลับในที่ทำงานเหมือนยามบางคน และไม่แอบไปกินเหล้าเมาในตู้ยามปล่อยให้โจรแอบมาขโมยของไปได้ ซึ่งเมื่อเทียบกับการใช้คนดูแลความปลอดภัยนั้น หุ่นยนต์สามารถทำงานได้ดีกว่ามากนั้นเอง
นอกจากงานรักษาความปลอดภัยภายในอาคารต่าง ๆ แล้ว ก็ยังมี MOBO 2 An Omni-directional wheel Mobile Robot ที่พัฒนามาจากศูนย์ปฏิบัติการพัฒนาหุ่นยนต์ภาคสนาม (FIBO) แห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ของไทยเรานี้เอง โดยมันจะเป็นหุ่นยนต์ที่ใช้ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยว่าจะเป็นระเบิดพร้อมทั้งเก็บกู้แทนการใช้ชีวิตมนุษย์เข้าไปเสี่ยงโดยตรง
นี้จึงเป็นการนำ ระบบ IoT ที่พัฒนาต่อยอดมาเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับมนุษย์ที่น่าสนใจและจะก้าวต่อไปไม่หยุดอยู่แน่นอน
]]>
ประโยชน์อย่างหนึ่งของการที่เทคโนโลยี IoT ต่างพากันพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้งก็คือ การพัฒนาระบบ Security หรือการรักษาความปลอดภัยในชีวิตประจำวันและทรัพย์สินของผู้ใช้งานให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่ระบบรักษาความปลอดภัยอย่าง กล้องวงจรปิด (CCTV) ที่ถูกพัฒนาจนกลายมาเป็น กล้องวงจรปิดแบบไร้สายของ Home Security Camera รุ่น WATASHI WIOT1001 ที่ดูภาพได้ทุกที่ในมือถือและพูดคุยกับคนหน้ากล้องได้อีกด้วย
รวมทั้งชุดอุปกรณ์ IoT Security อย่างสวิตซ์ไฟ อัจฉริยะภายในบ้าน ของ Smart Wi-Fi Touch Switch ตั้งแต่รุ่น WATASHI WIOT3002 - 3004 ซึ่งทำให้เราสามารถติดตั้งระบบเซ็นเซอร์แต่ละตัวลงไปยังระบบไฟส่องสว่างจุดที่สำคัญของบ้าน อาทิ ประตู หน้าต่าง ห้องเก็บตู้เซฟ เป็นต้น เมื่อเซ็นเซอร์ตรวจพบการทำงานที่ผิดปกติก็จะแจ้งไปยังผู้ใช้งานทางแอพมือถือในทันที รวมทั้ง การตัดเวลาปิดเปิดไฟทั้งในทันที่และล่วงหน้าได้
และยังมีระบบเปิดปิดประตูบ้านผ่าน IoT ที่สั่งงานได้โดยสมาร์โฟน หรือ Smart Watch รวมทั้งในรูปแบบอุปกรณ์กระดิ่งหน้าประตูบ้าน VIDEO Doorbells รุ่น WATASHI WIOT1003 ทำหน้าที่เป็นดั่งกลอนประตูบ้านรักษาความปลอดภัยที่สั่งเปิดปิดผ่านมือถือที่มาพร้อมระบบสแกนใบหน้า การตรวจสอบด้วยเสียงและเตือนภัยผ่านมือถือ แถมด้วยการเปิดระบบผ่านมือถือเพื่อวีดิโอคอลคุยกับคนที่มาหาเราที่บ้านได้อีกด้วย
นี้จึงเป็นแนวทางการพัฒนา ระบบ IoT ที่ถูกนำมาใช้ในระบบ Security เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตให้กับเราในอนาคตต่อไปนั้นเอง โดยมีข้อดีก็คือการติดตั้งระบบ ๆ ง่าย ๆ ด้วยตนเอง และสั่งการต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเองผ่านมือถือง่าย ๆ
อักษรย่อ " IoT " นั้น สามารถอธิบายเป็นภาษาไทยให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ การที่ระบบอินเทอร์เน็ตถูกนำมาแฝง หรือรวมอยู่ในอุปกรณ์เครื่องใช้ทุกสรรพสิ่งรอบตัวของมนุษย์ที่ย่อมาจากภาษาอังกฤษว่า "Internet of Things" นั้นเอง และทำให้ผู้ใช้งานสามารถสั่งการสิ่งต่าง ๆ ได้ อาทิ สั่งสตาร์รถยนต์ผ่านมือถือโดยตัวเองไม่ได้อยู่ในรถยนต์ สั่งพิมพ์งานจากระยะไกล สั่งเปิดและปิดระบบไฟฟ้าภายในบ้าน เป็นต้น
นอกจากนี้บางคนอาจเรียกระบบนี้ว่า "Machine to Machine" ที่เรียกสั้น ๆ ว่า M2M มีที่มาจากการที่ระบบเครื่องใช้ไฟฟ้าอุปกรณ์ต่าง ๆ ถูกใช้งานเชื่อมต่อกันผ่านการทำงานของระบบ อินเทอร์เน็ต โดยเทคโนโลยี IoT นี้ ยกตัวอย่างง่าย ๆ ใกล้ตัวเรา เช่น ปลั๊กไฟอัจฉริยะ Smart Power Plug รุ่น WATASHI WIOT3001 ที่มีระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าและแจ้งเตือนความผิดปกติเข้ามือถือของผู้ใช้งานในทันที
การทำงานจะเริ่มต้นจากที่ระบบการรับข้อมูลทั้งสองที่กล่าวมานั้น ได้ตรวจพบข้อมูลการสั่งงานในรูปแบบต่าง ๆ จากผู้ใช้งานก็จะส่งข้อมูลสั่งงานต่อไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ต่อกันด้วยระบบอินเทอร์เน็ตข้อดีก็คือความสะดวกรวดเร็วที่จะมีมากขึ้น โดยเฉพาะระบบกระดิ่งอัจฉริยะ VIDEO Doorbells รุ่น WATASHI WIOT1003 ช่วยรักษาความปลอดภัยที่ดีไม่ให้มีใครมาทำอันตรายบุคคลภายในบ้านได้ง่ายๆ
เทคโนโลยี IoT จึงเป็นเสมือนเครื่องช่วยพัฒนาคุณชีวิตให้เราเจริญก้าวหน้าไปได้ในขณะเดียวกันก็ต้องรู้จักใช้อย่างถูกวิธี จึงจะช่วยให้สังคมเราเจริญก้าวหน้าไปพร้อมเทคโนโลยีที่ก้าวไกลต่อไป ทั้งนี้ เราจะยังต้องได้พบเจออุปกรณ์ IoT รุ่นใหม่ ๆ ออกมาอีกอย่างแน่นอน
]]>